เราพูดกันถึงเรื่องเพชรมาหลายครั้งแล้วนะคะ และครั้งนี้ก็สำหรับคุณๆ ที่อยากจะออกแบบเครื่องประดับด้วยตัวเองหรืออยากจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการใช้งาน ทีนี้หละ เราจะสื่อสารกับร้านค้าหรือช่างได้ยังไงหละ เพื่อที่จะได้แบบที่ต้องการ คุณลูกค้าบางคนก็อาจใช้วิธีถ่ายรูปมาบ้าง ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่ถ้าได้แบบมาจาก เว็ปไซ้ด์ต่างๆ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ก่อนอื่นเลยคะ คุณๆทั้งหลายเมื่อได้แบบที่ต้องการละ สิ่งที่ควรทำคือ ลองคะ มองหาแบบที่คล้ายคลึงกันก็ได้ลองดูเลยคะ ว่าใส่แล้วเหมาะกับคุณรึเปล่า เป็นเพราะลักษณะ สัดส่วน นิ้ว หู คอ ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สีผิวก็ต่างกัน การแต่งตัวก็ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลองเพื่อให้ได้แบบที่ต้องตา ถูกใจ เหมือนกับการเลือกซื้อเสี้อผ้าเลยคะ
เมื่อได้แบบที่ต้องการก็ต้องมาดูว่าจะใช้วัสดุอะไรมาทำ ทอง, ทองคำขาว, เงิน ประดับด้วย เพชรหรือพลอย การประดับ เพชรพลอยลงบนตัวเรือน เราเรียกว่า การฝัง (setting) ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกัน และทำให้งานที่ออกมา สวยงามแตกต่างกันไปคะ
การฝังแบบหนามเตยเป็นการฝังที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีลักษณะเป็นก้าน(ง่าม)ยาว ต่อจากกระเปาะ ที่ประคองอัญมณีไว้ ส่วนปลายของหนามเตยแต่ละอันจะโค้งเข้าหากันและเกาะติดกับขอบของอัญมณี จำนวนขาของหนามเตยอาจจะมี 4 ขา 5 ขา หรือ 6 ขา หรืออาจมีมากกว่าแล้วแต่ดีไซน์ของเครื่องประดับ และขนาดอัญมณี นอกจากหนามเตยจะมีแบบกลมแล้ว ยังมีลักษณะหนามเตยแบบสามเหลี่ยม ( V-Prongs Setting) ที่เรียกว่า หัวเรือ เพื่อไว้ใช้ฝังอัญมณีรูปร่างที่มีมุม เช่น มาคีส์ หยดน้ำ สี่เหลี่ยม การฝังแบบหนามเตยทำให้อัญมณีส่องประกายได้ชัดเจน เนื่องจากแสงผ่านเข้าไปในอัญมณีได้ง่าย เพราะวิธีนี้จะเน้นที่อัญมณี ให้โดดเด่น และสามารถเรียงอัญมณีได้ชิดติดกันด้วย ตัวเรือนแทบจะไม่บทบังความงดงามของอัญมณีเลย ฉะนั้นตัวเรือนจะก็มีลักษณะเบาบางกะทัดรัด แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย แต่การฝังแบบนี้ อาจทำให้ขอบของอัญมณีบิ่นได้ง่าย ถ้าเป็นอัญมณีชนิดที่เปราะ หากคุณเผลอกระแทกอะไรเข้า และตัวหนามเตยก็อาจเกี่ยวเสื้อผ้าหรือเส้นผมของคุณได้ง่ายอีกด้วย

การฝังหุ้มเป็นการฝังโดยทำกรอบรอบขอบอัญมณี หรือจะหุ้มโดยเว้นตรงส่วนกลางของอัญมณีไว้ก็ได้ ซึ่งจะทำให้ดูทันสมัยขึ้น วิธีนี้จะนิยมมากสำหรับแหวนผู้ชาย เพราะดูแข็งแรงป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี แถมยังหลอกตาช่วยให้อัญมณีดูใหญ่ขึ้นอีกด้วย แต่การฝังหุ้ม ทำให้แสงผ่านเข้าไปได้น้อย ประกายของอัญมณีก็จะงดงามได้ไม่เท่าการฝังด้วยหนามเตยอย่างแน่นอน
การฝังสอดสามารถเรียงอัญมณีเป็นแถวโดยมีช่องว่างน้อยมาก ตัวเรือนจะทำเป็นเส้นขอบขนานกันบางๆ ล็อคอัญมณีไว้ตรงกลาง หรือจะวางอัญมณีเรียงโดยใช้เส้นทองขั้นไว้เป็นแถว (Bar Channel) ซึ่งจะทำให้การออกแบบเครื่องประดับของคุณมีลวดลายแปลกๆ เพิ่มขึ้นอีก ถึงแม้ว่าการฝังแบบนี้จะแข็งแรงกันกระแทกได้เป็นอย่างดี แต่ต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญอย่างมาก และการปรับขนาดหรือทำความสะอาดเครื่องประดับจะทำให้อัญมณีหลุดออกได้ง่าย

การฝังเจาะเป็นการฝังอัญมณี ขนาดเล็กลงไปในเนื้อโลหะ ยึดไว้ด้วยตุ่มกลมเม็ดเล็กๆ รอบอัญมนี มากหรือน้อยตามขนาดของอัญมณีที่ฝังลงไปคะ การฝังแบบนี้จะฝังเต็มพื้นที่บนโลหะฉะนั้นต้องเลือกอัญมณีที่มีเหลี่ยมสวยถึงจะได้งานออกมาดูระยิบระยับ สวยงาม แต่การฝังแบบนี้ต้องอาศัยความชำนาญและระยะเวลามากกว่าแบบอื่นๆเลยคะ

การฝังจะฝังจมลงไปในเนื้อโลหะ หน้าอัญมณีจะเสมอกับตัวเรือน ถึงแม้ว่าจะเป็นการฝังแบบนี้จะดูทันสมัย และป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี แต่ก็จะไม่เหมาะกับอัญมณีที่เปราะ เพราะการฝังที่ต้องใช้แรงกดลงไป เสี่ยงต่อการทำอัญมณีบิ่นหรือแตกได้ง่าย
การฝังหนีบจะใช้แรงดันจากโลหะทั้งสองด้านยึดอัญมณีไว้ ตัวเรือนจึงต้องมีความหนาเพื่อฝังให้แข็งแรง หน้าอัญมณีจะเสมอกับไปกับตัวเรือน อัญมณีจะถูกหุ้มไว้บางส่วน ฉะนั้นการตัดต่อขนาด หรือการล้างทำความสะอาด อาจทำให้อัญมณีขยับ หรือหลุดออกมาได้

การฝังไร้หนามจะใช้กับอัญมณีทรงสี่เหลี่ยม จะฝังอัญมณีชิดกันเหมือนตาราง และไม่มีโลหะกั้นกลาง ถึงแม้จะดูสวยงามดั่ง แต่เป็นวิธีฝังที่ยากที่สุด มีความเสี่ยงต่อการทำอัญมณีแตกได้ง่ายที่สุดอีกด้วย และการเลือกอัญมณีก็ยากมากเช่นกัน ต้องเลือกที่มีขนาดที่เท่ากันพอดี ทั้งสีและขนาด